ความรักดีๆอยู่ที่ใด?

“มองคนรอบรอบตัว มองดูคนใดกันคนไหนกันเขารักกัน..” ทันเพลงนี้กันไหมนะครับ น่าจะง่ายเหลือเกิน ถ้าเกิดเอาเพียงแค่เนื้อเพลงมาเขียนเป็นบทความความรัก (แม้กระนั้นก็อดที่จะร้องในใจมิได้ เมื่อใช้ชื่อเนื้อหานี้ ) มีไม่น้อยเลยที่ผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยรู้สึกมีปัญหานี้ โดยที่ไม่เกี่ยวอะไรกับเพลง กับปัญหาที่ว่า ความรักดีๆอยู่ไหน?… กัน

บางทีอาจดูเหมือนกับว่าเป็นปัญหาของคนไม่มีคนรัก แต่ว่าไม่ใช่แค่นั้น คนผิดหวัง หรือผู้ที่กำลังจะมีสิ่งไม่ดีเรื่องรักเกิดขึ้นกับตัว ในประมาณว่า เพราะเหตุไรคำตอบไม่เป็นดังหวัง? คำตอบเป็นไปได้หลายทาง แม้กระนั้นหากเขียนเนื้อหาบทความความรักแล้วโยงเข้าความจริง ธรรมมะ ก็ไม่น่ามีอะไรให้เขียนมากเท่าไรนัก แม้ว่าจะเป็นจริงแม้กระนั้นก็ราวกับดึงทุกสิ่งทุกอย่างขมวดปมลงจุดหมายในที่สุดไปเสียหมด เขียนอ่านกันแบบผู้ที่อยู่กลางทางรู้เรื่องกัน ราวกับประสาเพื่อนคุยกันเลยดีกว่า

ความรักดีๆอยู่ไหน?

ก่อนที่จะไปปัญหาว่า “อยู่ที่แห่งไหน?” สำหรับบางบุคคลบางทีอาจสะดุดใจตั้งแต่ “มีหรือเปล่า” เนื่องจากความแตกต่างในประเด็นนี้มีหลายมุมมอง ผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยเมื่อผ่านอะไรไป (หรือผ่านอะไรมา) ย่อมมีทัศนคติในแบบหนึ่ง ดูในด้านบวกที่สุด รักดีๆมีแน่ มีอยู่ทั่วๆไป มองในแง่ร้ายก็คิดไปได้ว่า มันไม่มี ราวกับรักจริงไม่มีจริง..

รักย่อมเป็นสิ่งที่โต้แย้งกันยาก หรือโต้แย้งกันไปก็ไม่มีประโยชน์ จะมีหรือเปล่า ขั้นต่ำหากจะคิดตรึกตรองพวกเราก็จะต้องดูด้วยความจริงใจเป็นกลาง ไม่เอาเพียงแต่ประสบการณ์ของพวกเราเป็นที่ตั้ง หรือ มัวแต่ความปรารถนาของพวกเราเอง เหมือนพวกเราคาดหมายไว้สูงเกินความจำเป็นว่ารักดีๆควรเป็นเช่นไร อย่างนี้อาจจะเมื่อยล้าเกินความจำเป็นที่กำลังจะได้รักดีๆหรือวินิจฉัยโดยทันทีว่ารักดีๆอาจไม่มีจริง…

บอกแทนกันมิได้… แม้กระนั้น

จากย่อหน้าที่ผ่านไป หากแม้มองดูในมุมที่ “ความรักดีๆมีอยู่” นั้น แต่ว่ามันก็มียังมีปัญหาที่ว่า แล้ว “ความรัก แบบไหนที่ว่าดี?” นี่เองก็เลยเป็นเหตุผลหวานใจดีอยู่ไหนนั้นทดแทนกัน หรือบอกแทนกันตรงๆได้แก่ อยู่อิตาลี อยู่เมืองบาเซโลน่า อยู่โชคชัย 4 หรือที่หน้าพาราก้อน นั้นมันอาจไม่ใช่ รวมทั้งถึงแม้ยังไม่ทราบอยู่ที่แห่งไหน แม้กระนั้นโดยส่วนมาก พวกเราก็จะประเมินความรักที่ดี ควรมี “คุณลักษณะ” บางสิ่ง..

มีงานศึกษาเรียนรู้วิจัยที่น่าดึงดูดจับใจความโดยคร่าวๆไว้ว่า มนุษย์เราพร้อมที่จะ “ปรับสเปค” (คุณลักษณะ) ลงมาเมื่อพบว่าสิ่งดีๆ(ที่อยากได้) นั้นอยู่เกินเอื้อมเหลือเกิน อ้างอิงศึกษาค้นคว้าอีกครั้งจากในหนังสือ The Upside of irrationality เป็นหนังสือเกี่ยวกับความประพฤติปฏิบัติ (จิตวิทยา) มีส่วนหนึ่งยกตัวอย่างไว้ทำนองว่า โดยพื้นฐานพวกเราล้วนอยากได้ ชายหนุ่มหล่อ สาวสวย อย่างศิลปิน ซุปเปอร์สตาร์มาเป็นคนรักกันทั้งมวล แม้กระนั้นพวกเราก็พร้อมที่จะ “ปรับนิสัย” เพิ่ม/ลด คุณลักษณะอะไรบางอย่างไปดังที่ใกล้เคียงหรือเหมาะสมกับตนเอง (เลิกฝันจะมีคนรักศิลปิน เนื่องจากว่าทราบว่าไม่มีทางเป็นไปได้) ฟังมองน่าดูดีมีเหตุมีผลว่าไหม?

แต่ว่าชีวิตจริงนอกตำราสำหรับในการปรับพฤติกรรมนั้นบางเวลาใช่ว่ามีต้นเหตุมาจากเหตุผลตามที่เป็นจริง(จากตัวเรา) มันอาจเกิดขึ้นจากการเปรียบเทียบแล้วก็สภาพแวดล้อม แบบอย่างกล้วยๆดังเช่นว่า คุณมองเห็นไม่สวยได้แฟนดูดี คุณก็บางทีอาจมีความรู้สึกว่าแบบนี้คุณก็มีได้ หรือ ในอดีตกาลคุณกำเนิด (บังเอิญ) ได้แฟนดูดี (สมมุติคุณเค้าหน้าไม่ดีเท่าใด) เมื่อไปกันไม่รอด เลิกร้างไป ในขณะที่คุณจะมีคนรักใหม่ คุณย่อมไม่ต้องการที่จะอยากที่จะยอมลดมาตรฐานลง (จำต้องได้เกียรติตาดีอย่างเดิม) ซึ่งบางทีอาจเป็นได้ว่ามิได้เกิดขึ้นจากตัวคุณเอง แม้กระนั้นเกิดขึ้นจากสายตาผู้อื่น หรือสภาพแวดล้อมก็ได้เหมือนกัน อย่าง กลัวถูกดูแคลน กลัวคนรักเก่าเย้ยหยัน (เป็นการยกตัวอย่างอย่างง่าย มิได้พูดว่าคนใบหน้าไม่ดีจะมีคู่รักดูดีมิได้)

“ดีวันนี้ บางทีอาจไม่ดีคราวหน้า”

ส่วนตัวก็เคยมีประสบการณ์ยุคเรียนมัธยม ในตอนนั้นกำลังรู้สึกชื่นชอบกันกับรุ่นน้องคนหนึ่ง คุณผอมบางผิวเข้ม หัวข้อตรงผิวเข้มนี้เอง ทำให้เหล่าเพื่อนพ้องๆล้อจนกระทั่งผมทนไม่ได้ เลิกพอใจน้องเขาดื้อรั้นๆ(รู้สึกไม่ถูกจนกระทั่งวันนี้) ฟังดูเหมือนกับว่าเพื่อนฝูงๆดูถูกผิว (racism) แต่ว่ามันก็เป็นในมุมวัยคึกคะนองมากยิ่งกว่า และก็ในเวลานั้นเป็น puppy love รักแบบเด็กๆแม้กระนั้นก็นี่แหละแบบอย่างหนึ่งของการมิได้ตกลงใจเลือกอะไรด้วยตัวเองจริงๆ

ส่วนหนึ่งส่วนใดการปรับตัวในที่นี้ครั้งคราวก็ไม่ใช่ลักษณะในทางบวก บางทีอาจถือเป็นการ “เปลี่ยน” มากยิ่งกว่า “ปรับพฤติกรรม” โดยอย่างมากเมื่อมีการเปรียบ เช่น มองเห็นสหาย มองเห็นผู้อื่น ได้ผัวมีฐานะทางด้านการเงินดี ได้ท่องเที่ยวที่ต่างๆแล้วก็เมื่อกลับมามองดูของตัวเอง เล่นแม้กระนั้นเกมส์ แต่งรถยนต์ สะสมของที่พวกเรามิได้ถูกใจด้วย ในทำนองนี้ ก็จะคิดว่าตนมิได้คนดีเสมือนเพื่อนฝูง ในขณะที่บางอย่างนั้นพวกเราก็มิได้ถูกใจ อย่างเช่น การได้ท่องเที่ยว มันก็ไม่ใช่จุดหมายการมีรัก การมีคู่ หรือชีวิตที่คุณเห็นว่าดีอย่างแท้จริงเลย ไม่รวมทั้งว่า ผัวเพื่อนฝูงคนนั้นอาจมีคุณลักษณะอื่นที่ห่วยสำหรับคุณเยอะแยะก็เป็นไปได้

มนุษย์เราจะต้องมีสิทธิเลือก บางครั้งคุณก็เลือกแล้วนะ..

มนุษย์เราควรจะมีสิทธิเลือก บางครั้งคุณก็เลือกแล้วนะ.. แบบอย่าง (แบบชัดง่ายอาทิเช่นเดิม) มีเพศหญิงคนหนึ่งปิ๊ง (แอบรัก) กับเพศชายคนหนึ่ง ซึ่งวันนั้นเขายืนดูดบุหรี่อยู่กับเพื่อนฝูง ผ่านไปไม่นานตกลงคบ รัก กัน อยู่ไปครู่หนึ่ง คุณพร่ำบ่นเขาไป “เมื่อไรจะเลิกยาสูบสักครั้ง..” แบบนี้โทษคนไหน หญิงคนนี้จะอ้างก็ได้ว่าประสงค์ดีต้องการให้เขาร่างกายแข็งแรง แต่ว่าปัจจุบันนี้ใช่แน่หรือ? เพศชายคนนี้ยังเป็นคนดี หรือดีไม่เพียงพอเสียแล้ว.. อ่อคำตอบบางทีอาจเป็น เขาดีนะ แม้กระนั้น.. (เนื่องจากมีคำว่า “แต่ว่า..” ยังไง)

ที่ยกตัวอย่างไปอาจมองว่า มีแม้กระนั้นเรื่อง “รูปกายด้านนอก” หรือคุณลักษณะข้างนอก ไม่น่าจะใช่รักดีๆซึ่งมันก็เป็นแบบนั้น เพียงแต่ว่ามันเป็นตัวอย่างที่เห็นภาพชัด เข้าใจง่ายไม่สลับซับซ้อนเท่าคุณลักษณะอื่นๆที่อยากที่จะให้เห็นว่า เพียงแค่ด้านนอกพวกเรายังไม่บางทีอาจตกลงใจได้เลยว่า “แบบไหนดีกับพวกเราจริง” หรือสามารถถูกสังคม สภาพแวดล้อมเท่าให้พวกเรา งงได้ แล้วรักดีๆด้วยคุณลักษณะด้านใน บุคลิกลักษณะนิสัย อยู่ตรงไหน มันก็ยากจะมั่นใจ ด้วยเหตุว่าพวกเราบางทีอาจทั้งยัง “แปรไป” หรือ “ปรับพฤติกรรม” ใหม่ไปในทางที่มีความคิดว่า “ดี” สรุปกล้วยๆ“ดีวันนี้ บางทีอาจไม่ดีคราวหน้า” ก็ได้นะ…

รักดีๆก็ควรจะอยู่กับคนดีๆ

มีเรื่องมีราวหนึ่งซึ่งชอบกล่าวกันว่า “ถูกใจคนดี แต่ว่ารักคนหยาบช้า” ถ้าหากเป็นอย่างนี้จริง คุณว่าได้โอกาสที่จะพบรักดีไหมครับผม? ว่ากันตามจริงมันคงจะยาก แท้จริงพวกเรามิได้ถูกใจคนเลวทรามกันหรอกนะครับ แต่พวกเราทุกคนล้วนมีข้อเสีย รวมทั้งลึกๆพวกเรารู้แก่ใจ ถ้าหากพบผู้ใดกันที่เขาดูแล้วว่า “ดีเยี่ยม” มาคบกับพวกเรา มันก็จะไม่เหมาะสม เนื่องจากเขานั้นเข้าเกณฑ์ “ดีเหลือเกิน” ส่วนตัวสำหรับเรา แม้กระนั้นดีเหลือเกินตั้งแต่ต้น กับคบไปพึ่งมาบอกว่า “ดีเกินความจำเป็น” อันนี้คนละกรณี เนื่องจากแท้จริงใครๆก็อยากได้คนดี แต่ว่าคนดีก็ตามที่บอกดีมนุษย์เรามันแตกต่างกัน..

ความเหมาะสมก็ควรจะเป็นไปในความเหมาะสม พวกเรามิได้ดีพร้อม (ข้อเท็จจริงเขาก็คงจะเช่นเดียวกัน) แต่ว่า (มีแม้กระนั้นอีกนั่นแหละ) ว่า คนจำนวนไม่น้อย “กดตนเอง” มากเกินความจำเป็น พอลึกๆในจิตใจคิดว่าตนเป็นคนอัลธพาล อาจมองเข้าขั้นว่าพวกเราหยาบช้า หรือต้อยต่ำ ความสำนึกก็เลยปรับไปว่าก็ควรจะได้คนหยาบช้า คนพาลเหมาะสมกัน มันเกิดเรื่องจริงขอรับ แม้กระนั้นยากจะรู้สึกตัว รวมทั้งเปลี่ยนเป็นว่ารังควานตนเองทางอ้อม ด้วยการเลือกคนอัลธพาล และก็มีความรู้สึกว่าเขาคนนี้เหมาะสมกับพวกเราแล้ว

มั่นใจว่าคุณจะต้องเคยประสบพบเห็น รวมทั้งฉงนใจ เพราะอะไรผู้คนจำนวนมากยังทนอยู่กับคนชั่ว แล้วมองเขาก็รู้สึกตัว มูลเหตุจำนวนมากก็ชอบราวกับที่ชี้แจงไป แม้กระนั้นก็ยังมีอีกแบบเป็นตรงกันข้าม ถือดีเหลือเกิน กล่าวให้ง่ายเป็น “สูงศักดิ์” เกินจริง แบบนี้ก็เลยมองหาแม้กระนั้นผู้ที่บริบูรณ์(ในสายตาตน) หากวันหนึ่งปรับพฤติกรรม (คิด) ได้ก็บางทีอาจได้เจอผู้ที่สมควร แต่ว่าถ้าเกิดไม่ก็ไม่มีคู่ถัดไป (ฮ่า) รักดีๆก็เลยไม่มีสักครั้ง.. แม้กระนั้นแง่นี้ล่อแหลม เนื่องจากที่แท้ พวกเราบางทีอาจยังไม่พบผู้ที่สมควรจริงๆก็ได้ มิได้หลงตัวเอง รวมทั้งชีวิตที่ไม่มีคู่รัก ไม่ใช่ทรามไปเสียหมด ไม่ผิดอะไรที่จะดำเนินชีวิตผู้เดียว

รักดีๆย่อมอยู่กับคนดี ดีเพียงใดที่สมควร ก็ตามทีพินิจพิเคราะห์กันไป เพียงแค่ สิ่งที่อันตรายเป็นผู้ที่ “มองดูตนเองห่วยแตกเกินความจำเป็น” มองดูตนเองในด้านร้าย กดตนเองเหลือเกิน เสมือนที่เขียนไปแล้ว ก็เลยไม่เอา “คนดี” เมื่อคบแม้กระนั้นคนอัลธพาล รักดีๆก็เลยไม่เคยทราบว่าอยู่ที่แห่งไหนในความนึกคิดตน..

รักดีๆบางทีอาจอยู่ที่ตัวเราเอง

ที่เขียนมา เป็นแต่ว่ามุมที่พวกเราดูแม้กระนั้นอีกข้าง ไตร่ตรองแม้กระนั้นผู้อื่น บางครั้งบางคราว หวานใจดีๆไม่มาสักครั้ง ก็เพราะว่าพวกเรานี่แหละไม่พิเคราะห์ตนเอง (ซึ่งน่าจะเป็นอย่างแรกที่ควรจะหา) การไม่ดูแลตนเองให้ดีพอเพียง ทั้งยังภาพลักษณ์ รวมทั้งนิสัยใจคอ ความประพฤติต่างๆหากแม้เพียงแค่จนกระทั่งการดำรงชีวิต ที่พวกเราไม่ใส่ใจ มันบางทีอาจสะท้อนไปยังนิสัยอะไรบางอย่างให้คนดีๆเขาวินิจฉัยไปว่า “ไม่เหมาะสม” เหมาะสมกัน แม้กระนั้นนี่ก็เป็นเพียงแค่พื้นฐาน…

ที่สำคัญกว่าน่าจะเป็นที่ว่าทัศนคติต่อ “ความรัก” หรือ ชีวิตครอบครัวของพวกเราเป็นเยี่ยงไร ในผู้ที่ไม่มีคู่ครองมานานกับ ผู้ที่มีผู้ใดกันมาคนไม่ใช่น้อย บางทีอาจให้นิยามหรือสอบถามหาความรักดีๆที่ต่างกัน เพราะเหตุว่ารักดีๆไม่ใช่ข้าวของที่ตั้งอยู่ แล้วพวกเราเดินทางไปหา ผมคิดว่าเป็น “คุณลักษณะ” บางสิ่งบางอย่างตามที่เขียนไป รักดีๆของผู้ใดกันแน่ก็เลยเป็นเพียงแต่ “ความซื่อ” ก็เลยเป็นเพียงแค่ “ที่ปรึกษา” ก็เลยเป็นเพียงแต่ “คนรู้เรื่อง” หรือเป็นผู้ใดกัน “เป็นที่ยอมรับในความเป็นพวกเรา” แม้กระนั้นโน่นก็อาจไม่เท่า พวกเราเห็นด้วยตนเองศึกษาที่จะพึงใจว่า ไม่มีรักไหนเหมาะสมที่สุดดังเดิมไปเสมอ รวมทั้งพวกเรารู้เรื่องหรือยังว่า รักดีของพวกเราควรมีคุณลักษณะใดบ้าง..

ซึ่งท้ายที่สุดจำต้องไม่ลืมเลือนว่า รักไม่ใช่พวกเราที่วินิจฉัยฝ่ายเดียว เขาก็มีสิทธิ์เช่นเดียวกัน เขาบางทีอาจไม่ใช่รักดีๆ(ดีเยี่ยมที่สุด) ที่พวกเราอยาก แม้กระนั้นพวกเราบางทีอาจเป็นรักดีๆที่เขาอยากได้ก็ได้นะ แบบนี้ รักดีๆบางทีอาจเป็นการ “เป็นสุดที่รัก” ให้ใครสักคน หรือของใครสักคน ซึ่งเขาให้ค่ารักพวกเรามากพอ พวกเราก็แค่พึงพอใจรับไว้และก็รักษามัน ซึ่งมันอยู่ที่ตัวเราเองทั้งหมดทั้งปวง ตั้งแต่วิธีการทำให้ตนเองเป็นหวานใจ หรือสารภาพรัก โดยไม่ต้องดิ้นรนค้นหา

ไม่ว่ารักดีๆของคุณจะอยู่ตรงไหน ยังไม่มี ยังไม่มา อยู่ข้างกายแล้วหรือยังไง ก็ขอให้โชคดี ทุกคนที่อ่านเนื้อหานี้พบรักดีๆทุกคน นะครับ

สนับสนุนโดย สล็อต